วันพฤหัสบดีที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2552

freitag compost bags





ใครที่รู้จัก Freitag คราวนี้เค้ามาอย่างเท่ จัดนิทรรศการ แจกถุง แล้วเอาขยะมารวมกัน
เพื่อรณรงค์ให้คนรู้จักการรีไซเคิล และลดขยะในโลกเรา compost หรือขยะสด เป็นจุดเริ่มต้นของนิทรรศการนี้
100 designers ออกแบบถุง 100 ใบ แล้วแจกให้แขกที่มาละเทียนรับถุงภายในงาน
โดยมีเงื่อนไขว่า จะต้องนำขยะสดของตนมา ทิ้งที่ compost bin ในแกลอรี่
แต่แอบสงสัยว่า มีขยะหมุนอยู่ตลอดสามเดือนในนั้น ไม่กล้าคิดว่ากลิ่นจะเป็นยังไงจิงๆ

เพิ่มเติมตามลิงค์เลยจ้า
http://www.designboom.com/weblog/cat/26/view/7781/freitag-compost-bags.html

วันอังคารที่ 12 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

คนขายก็ไม่ให้ คนซื้อก็ไม่เอา

วันนี้ได้เจอกับเรื่องเล็กๆที่ประทับใจ
ณร้านเจ็ด สิบเอ็ด สาขา จามจุรีแสควร์
เราก็เดินเข้าไปหาของกินประทังความหิว
ระหว่างเดินเลือกของอยู่ก็จะได้ยินเสียง แจ๋วๆของ น้องสาวพนักงานคิดเงิน
พูดกับลูกค้าว่า "ใส่ถุงมั้ยคะ"
พอถึงคิวเราจ่ายตังค์บ้าง น้องเค้าก็พูดอย่างนี้อีก

ในฐานะที่เป็นคนขาย กับคนซื้อ เมื่อร่วมใจกันลดการเอาถุงของร้านเจ็ด สิบเอ็ดใบเล็กมาได้ซักหนึ่งใบ หลายๆคนเข้าขยะก็คงหดไปมากโข

เดี๋ยวนี้คำว่า ไม่ต้องใส่ถุงค่ะ กลายเป็นคำพูดฮิตติดปากไปเลยนะเออ :)

วันพุธที่ 22 เมษายน พ.ศ. 2552

ให้ทุกวันเป็นวันของโลก



เผลอแว้บเดียว วันคุ้มครองโลก (Earth Day) เวียนมาอีกแล้ว
ก็ได้อากู๋ (เกิ้น) เนี่ยแหละ...ช่วยเตือนความจำ
โดยเฉพาะโลโก้ปีนี้ โอ้โห..สวยเขียวดูมีชีวิตชีวามากๆ
เมื่อเปรียบเทียบกับที่ออกมาอวดโฉมเมื่อปี 2550 และ 2551

เราคงไม่เขียนถึงที่มาของวันคุ้มครองโลกหรอกนะ
เพราะเคยเขียนไว้ในหน้านี้แล้ว
แค่อยากชวนคุย ชวนทำกิจกรรมหนุกๆ เท่านั้น

โดยส่วนตัว...เราคิดว่า ตอนนี้โลกป่วยหนักแล้วแหละ
จะมาคุ้มครองกันแค่ปีละวันคงไม่ไหว
อุปมาเหมือนคนไข้ขึ้นสูง
จะเช็ดตัวแค่วันละครั้งคงชักแหงกๆ ซะก่อน
ต้องเยียวยาโดยด่วน ทั้งเช็ดตัวทุกชั่วโมง ดื่มน้ำเยอะๆ
และทานยาลดไข้...ไปพร้อมๆ กัน

ก็เลยอยากชวนเพื่อนพ้องน้องพี่
มาช่วยกันทำให้ทุกๆ วันเป็นวันของโลก
ด้วยวิธีการง่ายๆ แต่ต้องมีสัญญาใจว่าจะลงมือจริง
นั่นคือ...พยายามลดรอยตีนฝากโลกอย่างน้อยวันละ 1 รายการ
เช่น
ถ้าเมื่อวาน ลงมือปลูกต้นไม้
วันนี้ ก็พกกระติกน้ำ
พรุ่งนี้ หันมาหิ้วปิ่นโต
วันถัดไป งดใช้รถยนต์ส่วนตัว
วันถัดไปอีก ก็ลองทำน้ำหมักชีวภาพ
...อะไรทำนองนี้
(แต่ถ้าเป็นพวกเขียวเข้ม ทำได้มากกว่าวันละอย่างก็ยิ่งเจ๋ง)

เพื่ออะไรหนะเหรอ...?
เพื่อให้ทุกวันเป็นวันของโลกไงเล่า
เพราะถ้าไม่มีโลก ก็คงไม่มีเราทุกๆ คน

วันอาทิตย์ที่ 19 เมษายน พ.ศ. 2552

หมักหมมจนได้ดี



แดดร่มลมตกวันนี้ ณ บ้านนนทบุรี เราสองพี่น้องก็ได้ลงมือทดลองทำน้ำหมักชีวภาพซักทีค่ะ เริ่มจาก เอาถังพลาสติกมาหนึ่งใบ (เป็นถังผงซักฟอกที่ใช้หมดแล้ว) เค้าบอกว่าห้ามใช้ถังโลหะเพราะเป็นกรดและจะกัดโลหะ ใส่สารเชื้อจุลินทรีย์ลงไปหนึ่งซอง และใส่กากน้ำตาลลงไปอีกเท่าๆกัน (หาซื้อได้ตามที่ขายอาหารมังสวิรัติที่จตุจักร หรือเลม่อนฟาร์ม) และเติมน้ำ50เท่า จากนั้นก็ใส่เศษผักที่สับแล้วลงไปและปิดฝาไว้ ก็ยังไม่แน่ใจว่าจะออกมาหัวหรือก้อย จะผิดพลาดหรือถูกต้อง ก็ต้องลองดู


เค้าว่ากันว่า น้ำหมักชีวภาพเป็นของวิเศษ ใส่ลงในชักโครกก็ไม่ต้องเรียกรถมาดูดส้วม ล้างห้องน้ำก็สะอาดปลอดสารเคมี รดน้ำต้นไม้ก็ไม่มีแมลงกินและออกดอกผลงอกงามดี

เคยได้ข่าวคราวว่าบางชุมชนที่อาศัยอยู่ริมฝั่งน้ำที่นับวันจะเน่าเหม็น
ขึ้นเรื่อยๆ มีการร่วมใจกันทำน้ำหมักชีวภาพแล้วช่วยกันเทลงแม่น้ำลำคลองให้มันช่วยย่อยสบาย ผลปรากฎว่าน้ำเน่าเหม็นน้อยลงและสะอาดมากขึ้นเรื่อยๆ
เดี๋ยวนี้ถึงขนาดว่าบ้านไหนไม่ทำเนี่ย เชยยยยยยยยยยยยยยยสุดๆ
(ตอนเปิดขวดกากน้ำตาลหรือเค้าเรียกว่าโมลาส ฝาขวดพุ่งออกมาแรงมากหยั่งกะเปิดแชมเปญแหนะ ไม่รู้ว่าของเสียหรือเปล่าถึงเป็นแบบนั้น ถึงตอนนี้ก็ได้แต่ลุ้น)
ส่วนใครอยากลองบ้างแต่ทำไม่เป็น นี่เลย youtube เค้าจัดให้ค่ะ

วันเสาร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2552

สร้างกระแสซื้อกาแฟไม่เอาฝา

วันนี้ไปสวนเงินมีมา
เซอร์ไพรส์ได้เจอกับป้ายนี้ที่ร้านกาแฟในนั้น โอ้เห็นแล้วดีใจ เลยเอามาลงให้ได้ชมกันครับ

วันอังคารที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2552

ภัยแล้ง

คนกรุงน่าจะได้ยินคำนี้บ่อยๆจากข่าวทีวี วิทยุ หรือ หนังสือพิมพ์
แต่พวกเราจะเข้าใจมันแค่ไหน ในเมื่อเปิดตู้เย็นก็มีน้ำเย็นเจี๊ยบ เปิดก๊อกน้ำก็ไหลไม่อั้น
ข่าวว่ากันว่าภัยแล้งปีนี้จะใหญ่หลวงนัก ชาวนาเริ่มต้องซื้อเอาน้ำประปาลงที่นา บางที่ก็บอกว่าปีนี้ไม่ต้องหวังพืชผล บางพื้นที่ไม่มีน้ำจืดอาบ ต้องอาบน้ำเค็มก่อนแล้วราดน้ำจืดตามเพียงขันเดียว

ช่วยกันใช้น้ำอย่างเห็นค่า แล้วคิดถึงใบหน้าเพื่อนพี่น้องที่ไม่มีน้ำใช้กันด้วยนะคะ

วันอังคารที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2552

วันเดียวเที่ยวเกาะเกร็ด

เพิ่งไปปั่นจักรยานรอบเกาะเกร็ดเมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา
เจอเหตุการณ์คล้า่ยๆ กับคนข้างล่างที่ไปเดินสวนจตุจักร
เลยอยากเอามาแปะไว้ที่นี่

ทอดมันหน่อกะลา...เป็นของขึ้นชื่อที่เกาะเกร็ด
ถ้าพลาดกินก็คงเหมือนมาไม่ถึงเกาะเกร็ด
สองข้างทางมีร้านแผงลอยขายทอดมันหน่อกะลาเยอะมาก
เราไม่รู้หรอกว่า ร้านไหนอร่อย
ก็เลยเลือกซื้อจากประเภทของภาชนะ
ร้านค้าส่วนใหญ่ใช้ถ้วยโฟม
ต้องอดทนหาจนเจอร้านที่ใช้กระทงใบตองถึงได้ชิม

จริงๆ แล้วใช้กระทงใบตองน่าจะประหยัดเงินมากกว่า
แต่ก็นั่นแหละ พ่อค้าแม่ค้าส่วนใหญ่เลือกความสะดวกรวดเร็ว
ประหยัดเวลาก็เท่ากับการลดต้นทุนของเขาด้วย...มั้ง
เลยพากันเมินภาชนะที่ต้องมาเสียเวลานั่งตัดนั่งเย็บ
ขยะโฟมจึงล้นเกาะเกร็ด (และย่านที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน) ด้วยประการฉะนี้

ปล. ไม่มีภาพขยะถ้วยโฟมและกระทงใบตองมาให้ดู
แต่ขอยืนยันว่าเป็นเรื่องจริงทุกประการ :)