วันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2551

the gardening's diary

12 มิถุนายน

ตื่นเช้ามาด้วยความงัวเงีย

กินเช้าแกงร้านประจำหลังบ้าน ด้วยเมนูพยายามมัง ยำไข่ดาวกับ แกงจึดเต้าหู้ไข่ที่มีหมูสองชิ้น
อยากกินไวตามิล แต่ร้านนี้มีแต่ขวดแก้วกับนมกล่อง ตอนแรกจะเอานมใส่ถุงก็จำได้ว่ามีขวดในกระเป๋า เลยจัดแจงให้แม่ค้าใส่ขวดนี้ให้เรา

ดีใจไม่สร้างถุงหรือแม้แต่กล่องนม ฮ่าๆ
แต่อย่างไรดันเผลอรับหลอดมากซะได้ อะจึ่ย

เช้านี้ขึ้นรถเมล์ ต่อรถไฟฟ้าไปประชุมแถวราชวิถี อยู่ในห้องประชุม นั่งๆ นอนๆ ห้องแอร์ ใช้กระดาษไปนิดหน่อย เช่น ซองชาลิฟตัน ซองน้ำตาล ลูกอมซูกัส และ กระดาษรองหนม

แต่ก็พอให้อภัยได้

กินข้าวมังเขี่ยยามเที่ยงที่นี้ก็อิ่มหมีมากๆ ไม่สร้างขยะเลยแม้แต่น้อย ตังค์ก็อยู่ครบ ฮ่าๆ

เย็นเดินไปสยาม กินข้าว ดูหนังรอบเย็นแก้เครียด

กลับบ้านด้วยรถตู้ เรือ และรถเมล์ละเอิงเอย

13 มิถุนายน

ตื่นมาเวลาปกติ แต่อยู่ๆ ผีแม่บ้านก็เข้าสิง
หลังจากนั่งพับถุงพลาสติกเล่นตอนจิตตกเมื่อตอนที่แล้ว จิตใต้สำนึกคงสำนึกได้ว่า สถานที่เก็บถุง หรือใต้ที่ล้างจานบ้านตูนั่นมันชั่งรกชักจนน่ากลัวขึ้นทุกวัน ดังรูปนี้
ผีแม่บ้านจึงนั่งพับถุงชิงแชมป์จักรวาลต่อ เพื่อทำฟามสะอาด และ จัดทำขนมโอท๊อปรูปสามเหลี่ยมตราถุงพลาสติกใช้แล้วใช้อีก ส่งต่อให้ "พี่พุ่ม" แม่ครัวประจำร้านแม่ใช้ต่อเวลาลูกค้ามาซื้อของ


หน้าตาเหมือนขนมโอท๊อปไหม?

หลังจากนั่งพับมาพักใหญ่ก็พบว่ายิ่งลึก ใต้ที่ล้างจานยิ่งดูน่าแหยะมากขึ้นเรื่อยๆ ไม่ว่าจะเป็นอึแมงสาป คราบเหนียวเหน๊อะจากน้ำยาล้างจานหก เศษปูนที่คนงานก่อสร้างเก็บไม่เนี๊ยบ ก่อร่างสร้างรอยดำเขรอะเต็มพื้น กว่าจะถูเสร็จให้กลายเป็นปกติก็เหงื่อตก

ถุงพลาสติกที่อยู่ข้างล่างนั้นก็เหน๊อะๆ ดำๆไปด้วยจึงจัดแจงล้างและตาก เตรียมตัวเป็นถุงขยะในขั้นต่อไป

พับและเก็บให้เรี่ยมเร้เรไร

พับเก็บเสร็จข่อยก็หมดแฮง แต่รู้สึกภูมใจเหลือคณา เพราะสามารถจัดบ้านพร้อมรักษาถุงได้อีกหลายๆ ใบ แต่อย่างไรก็ตามข้าพเจ้ายังเหลือถุงจำนวนหนึ่งที่พับบ่ไหวแล้วเก็บไว้จัดการต่อ - -

พอทำเสร็จอวดแม่ แม่ทำหน้า เหย้ย!! มันทำขนาดนั้นเชียวเหรอ แล้วบอกว่าไม่ต้องเสียเวลาขนาดนั้นก็ได้ลูก แต่ถ้าไม่ทำงี้ชาวประชาจะรู้ได้ไงว่าต้องดูแลถุงพลาสติกในบ้าน และความสะอาดในที่หมกหมม ไม่ให้แมงมาทำรังในบ้านได้ และต่อไปนี้ห้ามใครทำที่เก็บถุงรกเด็ดขาด ไม่งั้นตายยยย

พอทำเสร็จ ก็เล่นเนตลัลลา กินข้าวต้ม หง่ำๆ

แต่แล้วท่านพี่ก็ชวนกึ่งบังคับไปงาน commart ไปซื้อของ

เอ้า ไปก็ไป!!!

ท่านพี่ได้โน๊ตบุ๊คใหม่ ไฉไลมากๆ ฮ่าๆ ดีใจเหมือนมีคอมใหม่เอง

ส่วนเราที่เล็งอยากได้กล้องมานานก็เลยไปเล็งกล้องในงานอยู่นานมาก

สุดท้ายไปลงเอยที่ Panasonic แถมมือถืออาโนแนะมาชิโมโร่และอื่นๆ อีกมากมาย

เห็นราคามันก็โอ ของแถมตรึม ก็เลยซื้อไป กลับมาเช็คราคาในเนตก็พบว่า มันก็ถูกอ่ะนะ แต่มันสามารถถูกได้อีก ถ้าไม่มีของแถมอีกมากมาย ซึ่งแสนจะล่อตาล่อใจให้เราซื้อ

การซื้อของแบบนี้ พาลทำให้ซื้อของมาซ้ำซาก เช่น มือถือมาชิ ที่เดิมเราก็มีมือถืออยู่แล้ว สิ่งเหล่านี้สร้างขยะทางเทคโนโลยีในอนาคต และการบริโภคเกินความจำเป็น

รู้สึกแย่นิดหน่อย แต่จะพยายามใช้ของที่ได้มาอย่างคุ้มค่าที่สุด และซื้อของแบบมีสติกว่านี้น่ะ

ปล. พบว่าหีบห่อของเครื่องใช้เทคโนโลยีเนี่ย มันเต็มไปด้วยถุงพลาสติก กล่องกระดาษ กล่องพลาสติก หลายห่อในหลายห่อจริงๆ ไม่รู้ว่าเหตุผลเพื่อความแข็งแรงหรือว่าเหมาะสมก็ไม่รู้ได้ ดูแล้ว หีบห่อพวกนี้ก็ดูกลับมาใช้ลำบากหน่อย แต่ต้องลองพยายามดู

พอซื้อกล้อง ซื้อคอมเสร็จ เรากับพี่ก็หมดแรงเลยเรียกแท็กซี่กลับบ้าน เปลืองน้ำมันไปหลายแหมะ

เป็นวันอันยาวนาน ที่ทั้งเขียว ไม่เขียว แถมยังไม่ปั่นงานเลยแม้แต่น้อย โอ้วแย่แล้ว!

ปล.สอง วันนี้สร้างขยะอีกสองชิ้น 1 ถุงพลาสติกห่อแซนวิชของเซเว่น 2 ถุงถั่ว

14 มิถุนายน

ตื่นมานั่งถอดเทปทำงาน

เที่ยงกินข้าว

บ่ายไปรวมตัวกับแก็งทำอาร์ตเวริคหนังสือ

เปิดคอมกันกระหน่ำซัมเมอร์เซวหกตัว เราออกแนวเล่นเนตไร้สาระซะเยอะ

กินหนมหวานไปสองถุง แถมกินไม่หมดอีกตะหาก

เดินไปกินกระท้อน แม่ค้าก็ใส่ถุงร้อนเตรียมให้แล้ว อดเขียวเลย

กินถั่วต้มใส้กล่องข้าวประจำกาย และพบว่าถั่วต้มเป็นของกินเล่นชั้นดีได้ เพราะนอกจากไม่สร้างขยะ ยังกลายเป็นปุ๋ยได้ง่ายได้

ดึกขึ้นรถเมล์กลับบ้าน

สรุปใช้ถุงร้อนไป 3 ถุงหนมบ้านนผุย 1 ประหยัดถุงไป 1

15 มิถุนา


ตื่นมาบิดขี้เกียจหลายรอบ และอยากเปิดคอมอยู่หลายรอบ แต่เด๋วก็ลงไปช่วยงานแม่แล้ว เลยตัดสินใจไม่เปิด ประหยัดไฟไปอีกหน่อย

บ่ายนั่งเล่นเนตเห่อคอมใหม่อย่างมาก ทำงาน อู้นอน

เย็นไปว่ายน้ำ

ซื้อของ เอาถุงพลาสติกไปช็อปของกิน ก่ะหาซื้อกระติกน้ำประจำกาย แต่เดอะมอลไม่มีอันที่เวริกๆ พี่เลยยกกระติกให้เฮาหนึ่งอัน

ขอบคุณท่านพี่มากมาย แม้เจ๊จะยังรับถุงพลาสติกอยู่ก็ตาม แต่น่ารักเสมอ
แต่ใช้ๆ ไปก็พบว่าน้ำมันชอบไหลซึมอยู่เสมอ สงสัยไงก็ต้องซื้อใหม่ ฮือ


ไปซื้องาดำเพื่อเอาไว้คลุกข้าวกินยามอยากมังสวิรัติ เดิมมาเป็นแพคถุง เอามาใส่กล่องมะขามเคี้ยวหนึบขนมที่รัก รียูสๆ
ตกดึกกินสลัด เดอะพิซซ่า ของน่าจะอิมพอร์ต แต่อยากกินอ่ะ เลยกิน

แล้วก็กลับบ้าน

ปล. ตอนแรกหาซื้อยาสระผมแบบรีฟิล เผื่อจะได้ไม่ต้องซื้อขวดใหม่แล้วทิ้งตลอดเวลา แถมประหยัดตังค์ด้วย แต่หาไม่ได้อ่ะ สงสัยไม่มีผลิต

16 มิถุนายน

วันนี้ไม่ได้ไปไหน
นั่งๆ นอนๆ ทำงานบ้าน ปั่นงานอยู่หน้าคอม
ประหยัดอะไรบ้าง?
ไฟ เปิดไฟดวงเดียว ปกติสอง
พัดลม หันมาใช้พัดลมยืนหนึ่งตัว
น้ำ ก็ซักผ้ามือแล้วค่อยเครื่องเหมียนเดิม
กิน กินเก่งเหมือนเดิม ฮ่าๆๆ
คอม ใช้อึดเหมือนเดิม
จบข่าว

17 มิถุนายน
วันที่เจ็ดแล้วจ๊ะ เผลอแปร็บเดียว
วันนี้เช้าก็ชิวๆ บ่ายไปหาของกินกับท่านพี่แต่เราดันลืมเอากล่องข้าวไปเสียนี้เลยใช้ถุงร้อนไป 3 ใบ
กินอาหารมังจ๊ะ ฮิฮิ
บ่ายนั่งอ่านการ์ตูนที่เช่า ไม่ได้ซื้อ
ฝนตกหนักมากๆ กว่าจะได้ออกจากบ้านเพื่อไปนัดก็ล่วงหน้าแค่ชั่วโมงเดียว
กลับบ้านด้วยรถน้องปอย สบายมั่กๆ

สรุป
- เราว่าคนที่ช่วยลดโลกร้อน เป็นซับเซดหนึ่งของคนงก และเรางกอยู่แล้ว พอจดว่าช่วยลดโลกร้อนอะไรบ้างก็เยอะเหมือนกันนะ ฮ่าๆ
- การจะชวนคนที่ไม่สนใจเรื่องแบบนี้ อย่างท่านพี่ ท่านแม่ หรือพนักงานที่บ้าน เป็นเรื่องที่ยากส์มากๆ จะทำอย่างไรให้เปลี่ยนได้ ต้องลองดูในระยะยาว
- การทำอะไรอย่างนี้ทำให้บ้านสะอาดขึ้น แต่มืดขึ้น (เพราะปิดไฟ)
- ทำอะไรที่ต้องมีความสามารถ มีเทคนิค อย่างเปลี่ยนหลอดไฟเบอร์ห้า เป็นเรื่องที่ยากส์ไปนิดสำหรับเรา ทำไม่เป็นเว้ย
- การลองแบบนี้ทำให้คิดมากขึ้นเวลาจะซื้ออะไรกิน
- พบว่าของกินเล่นที่แจ๋วสุดๆ คือ ถั่วต้ม ไอเลิฟๆ
- เวลาทวนศีลข้อที่ 1 พบว่าการช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมกับข้อ 1 เกี่ยวโยงกันมั่กๆ
- ที่ยังทำไม่ค่อยได้คือ รู้สึกเปิดคอมนานไป และไม่ค่อยจำเป็น แต่ติดอ่ะ
- จะพยายามทำงี้ต่อไป ถ้าเจออะไรแจ๋วๆ จะมาเล่าให้ฟังอีกนะจ๊ะ

ไม่มีความคิดเห็น: