วันอังคารที่ 27 พฤษภาคม พ.ศ. 2551

ไม่อยากกินน้ำในกระติกนี่นา


การพกกระติกน้ำไปไหนมาไหน ก็ดูจะเป็นประโยชน์มากมาย ทั้งประหยัดเงิน และช่วยโลกไปด้วยในตัว แต่ว่าสำหรับคนขี้เบื่อและไม่ค่อยพิสมัยการดื่มน้ำเปล่าอย่างเราก็ค่อนข้างลำบากอยู่ไม่น้อยทีเดียว

ให้ดื่มน้ำเปล่าไม่เย็นน่ะดื่มได้ แต่ว่าเวลาร้อนๆเหนื่อยๆ ใจมันก็อยากได้น้ำหวานๆเย็นๆสักหน่อย เพื่อดับความรุ่มร้อนในใจอยู่ ฉะนั้น จึงอดไม่ได้ที่ต้องไปซื้อน้ำดื่มมากิน

อย่างไรก็ตาม ด้วยความตระหนักรู้ว่าเรากำลังทำอะไรอยู่ วิธีที่เราใช้เป็นแนวทางในการซื้อน้ำกินก็คือ

ไม่เอาน้ำที่เป็นขวดพลาสติก

แม้จะอยากกินมากแค่ไหนก็ตาม ตัวเลือกแรกที่เราพิจารณาก่อนก็คือ น้ำในขวดแก้ว เพราะเอาไปรีไซเคิลได้ ต่อมาคือน้ำในกระป๋อง และก็น้ำผลไม้ในกล่องยูเอชที

หรือถ้าเป็นร้านน้ำ เราก็จะเลือกหาร้านที่ใช้แก้วกระดาษก่อนเป็นอันดับแรก

อย่างไรก็ตาม มันก็มีบ้าง ที่เครื่องดื่มในตู้กระจกเย็นๆ เจ้าน้ำที่ใส่ในภาชนะที่เราอยากได้ มันก็เป็นน้ำอัดลมบ้าง เบียร์บ้าง ส่วนน้ำฝรั่ง ร้อยเปอร์เซ็นต์จากธรรมชาติ โดยกลุ่มแม่บ้าน ใส่ขวดพลาสติกอยู่ เราก็เลือกอย่างหลังแทน ด้วยเหตุผลด้านสุขภาพของตัวเอง และกินของไทยด้วย

แม้เราจะไม่ได้ลดการซื้อน้ำดื่มที่บรรจุอยู่ในถุงพลาสติก หรือขวดพลาสติกให้เท่ากับศูนย์ แต่อย่างน้อยที่สุด กระบวนการคิดและใคร่ครวญในการซื้อก็เกิดขึ้น มันก็น่าจะช่วยให้เราค่อยๆเปลี่ยนแปลงไปได้ทีละน้อย

เวลาที่เราซื้อขวดน้ำที่ทำจากพลาสติก เราก็รู้ว่าเรากำลังเพิ่มขวดน้ำพลาสติกให้กับโลกหนึ่งใบอยู่ ดังนั้นเราจะใช้มันให้คุ้มค่ามากที่สุด และทำตัวเองให้มีประโยชน์มากเพียงพอ รวมถึง เราจะมีเวลาคิดมากขึ้นก่อนซื้อว่า เราต้องการมันจริงๆหรือเปล่า ก่อนที่จะหยิบไปจ่ายเงิน

ไม่อย่างนั้น ถ้าทำอะไรสุดขั้วเกินไปแล้ว เราจะมีบทเรียนเหมือนกับคนที่ลดความอ้วน ที่ช่วงลดน้ำหนักก็หยุดกินทุกอย่างที่อยากทาน แต่เมื่อถึงจุดหนึ่งถูกกดดันมากๆ ก็ระเบิดการกลายเป็นกินทุกอย่างที่ขวางหน้า จนอ้วนหนักเป็นสองเท่าเสียอีก ที่เค้าเรียกว่าโยโย่เอฟเฟคท์

ตอนนี้ ขอแค่ตระหนักรู้ และพยายามลดก่อนแล้วกัน ให้มันเป็นไปแบบสบายๆ

ไม่มีความคิดเห็น: